เก็บแยกแลกจ้า ขยะล่องหน

โครงการ “Care the Whale” สู่ชุมชน ริเริ่ม สถานีขยะล่องหน @ ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า

สุขวฑฺฒนี. (2564). โครงการ “Care the Whale” สู่ชุมชน ริเริ่ม สถานีขยะล่องหน @ ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า. วารสารโพธิยาลัย,  7(62), 74-76.

อะไรคือโครงการ “Care the Whale : ขยะล่องหน”

เรื่องนี้มิใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นการทำงานอย่างต่อเนื่องของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีเป้าหมายในการสร้างโอกาสการเติบโต อย่างสมดุล ทั้งธุรกิจ และสังคม (Balanced Growth) เพื่อให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ร่วมกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคสังคม ตามวิสัยทัศน์ “To make the capital market ‘Work’ for everyone” ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างสมดุลระบบนิเวศให้คงอยู่

การดำเนินงาน มากว่า ๑ ปี ของตลาดหลักทรัพย์ ที่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตร และเครือข่าย กว่า ๓๐ องค์กร ผู้ประกอบการ บนพื้นที่ถนนรัชดาภิเษก ๑๔ แห่ง รวมถึงผู้ประกอบการทางสังคม องค์กรพันธมิตรในธุรกิจด้าน Circular Economy และหน่วยงานภาครัฐ โดยตลอดทั้งปี ได้ร่วมกันลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก จากการบริหารจัดการขยะ และคัดแยกขยะ ได้ถึง 4,268,495.04 Kg.Co2e เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ใหญ่อายุ ๑๐ ปี จำนวน ๔๗๔,๒๗๗ ต้น

"เก็บ แยก แลก จ้า" ณ สถานีขยะล่องหน @ ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า วัดจากแดง
ภาพ: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวัดจากแดง และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) นำร่องขยายพื้นที่ความร่วมมือโครงการ Care the Whale สู่ชุมชน ริเริ่ม “สถานีขยะล่องหน @ ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า”

 

ความร่วมมือโครงการ Care the Whale : ขยะล่องหน เกิดขึ้นเพื่อขับเคลื่อน การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน ซึ่งดำเนินงานภายใต้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) (ในข้อ ๑๒ “Responsible Consumption and Production” ๑๓ “Climate Action” และข้อ ๑๗ “Partnerships for the Goals”) ปี พ.ศ. ๒๕๖๔

โครงการ Care the Whale มุ่งขยายความร่วมมือ ไปยังพื้นที่นอกถนนรัชดาภิเษก โดยร่วมกับองค์กรภาคธุรกิจ และภาคชุมชน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมพัฒนา Climate Care Calculator Digital Platform เป็นเครื่องมือบริหารจัดการขยะ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และคำนวณเป็นตัววัดผล ค่าการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ และพัฒนาการบริหารจัดการขยะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัดจากแดง เป็นวัดที่อยู่ติดแม่นํ้าเจ้าพระยา ภายในชุมชนคุ้งบางกะเจ้า พระราชวัชรบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดจากแดงในปัจจุบัน เล่าให้ฟังอยู่เนือง ๆ ว่า ในอดีตเมื่อหลายปีมาแล้ว วัดจากแดง ประสบปัญหา เรื่อง ขยะปริมาณมากที่ถูกนํ้าซัดมา เมื่อนํ้าลดขยะก็ค้างอยู่ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่ารื่นรมย์ ส่งกลิ่นเหม็น เป็นสภาวะที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติสมณธรรมของพระสงฆ์ ซึ่งทางวัดเองก็มีการเรียนพระบาลี และพระไตรปิฎก มีพระสงฆ์จำนวนมาก มาศึกษาหาความรู้ และมีการจัดปฏิบัติธรรม ให้แก่ประชาชน และนักเรียนทั่วไปอยู่เนืองๆ เมื่อมีขยะมากมายส่งกลิ่นเหม็น ความเป็นอยู่จึงไม่น่ารื่นรมย์

วัดจากแดง เดินทาง แผนที่
ภาพ: สถานที่ตั้งวัดจากแดง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

 

ที่ผ่านมา วัดได้มีการปลูกฝังความเข้าใจแก่พระสงฆ์ภายในวัด และคนในชุมชนวัดจากแดง และในบริเวณใกล้เคียง เรื่อง อันตรายของขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เกิดจิตสำนึก ในการช่วยกันลดปริมาณขยะของ วัด บ้าน และชุมชนของตน โดยการให้ความรู้เรื่องการจัดการคัดแยกขยะ มาตลอด ซึ่งได้ทำให้เกิดการนำขยะประเภทต่าง ๆ มาใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่น ขยะของเหลือจาก อาหารในครัว ก็นำมาทำปุ๋ยอินทรีย์ ขยะประเภทบรรจุภัณฑ์ที่ใส่อาหารถวายพระ เช่น ขวด และถุงพลาสติก ก็นำมาหมุนเวียน (re-cycle) ให้เกิดประโยชน์ในการแปรรูป และที่สำคัญคือ การให้ความรู้ และปลูกฝังเยาวชน ให้รักษาดูแลสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน หมู่บ้าน ตลาด และชุมชนที่พักอาศัย

ในบางโอกาสวัดจากแดงได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทหารเรือ จัดทำ เรือแพ หรือ เรือเล็ก และได้เชิญชวนผู้คนที่อาศัยอยู่ริมแม่นํ้า ลงเรือที่วัดจากแดง เพื่อเก็บขยะในแม่นํ้าเจ้าพระยา บริเวณที่ติดกับวัด ทำให้ทุกคนได้เห็น ขยะที่มากับนํ้าที่เก็บได้ประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ตะปูที่ติดมากับเศษไม้ ขวดพลาสติก ขวดแก้วประเภทต่าง ๆ โดยในวันที่มีการจัดกิจกรรมการเก็บขยะในแม่นํ้าเจ้าพระยานั้น สามารถเก็บขยะต่าง ๆ ที่ลอยผ่านหน้าวัดจากแดง ก่อนจะลงสู่อ่าวไทยได้จำนวนมากถึง ๒ ตัน ใช้เวลาเก็บเพียง ๑ ชั่วโมง

เก็บขยะจาก ทุ่นกักขยะ แม่น้ำเจ้าพระยา วัดจากแดง

จากประสบการณ์ที่ได้ใช้เวลาหนึ่งวันเก็บขยะที่มากับแม่นํ้าเจ้าพระยาได้หลายตัน ทำให้ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้เห็นถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นเมื่อขยะเหล่านี้ หากไหลผ่านลงสู่ทะเลได้ จะเป็นการทำลายระบบนิเวศน์ ทำให้สัตว์ในทะเลตายเพราะกินขยะเข้าไป ด้วยเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร ทำให้มีเศษพลาสติก หลายกิโล สะสมอยู่เต็มท้อง ดังที่มีข่าวให้เห็นได้ในหน้าหนังสือพิมพ์ การปลูกจิตสำนึก มิให้ทิ้งขยะลงแม่นํ้าลำคลองนี้ วัดจากแดง ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาหลายปี

บริษัทสหพัฒนพิบูล (มหาชน) จำกัด เป็นภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ ดำเนินกิจกรรมทางด้านสังคม ควบคู่ไปกับงานด้านธุรกิจ ตลอด ๘๐ ปีของกลุ่มสหพัฒน์ ได้คำนึงถึงชุมชนและสิ่งแวดล้อมตลอดมา อันจะเห็นได้จากโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ เช่น โครงการ “สหพัฒน์ให้น้อง” คือ โดยเข้าไปร่วมจัดกิจกรรมในโรงเรียนต่าง ๆ ให้ความรู้ แก่เด็กนักเรียนในเรื่องของการแยกขยะ ต่อมาได้รับการเชิญชวนจาก ตลาดหลักทรัพย์ ที่กำลังทำโครงการ “ขยะล่องหน” ร่วมกับชุมชนบางกะเจ้า และวัดจากแดง ซึ่งมีความคิด และการปฏิบัติที่ดำเนินในทิศทางเดียวกันกับกลุ่มสหพัฒน์ จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ ในการสร้างพฤติกรรมการจัดการกับขยะให้กับชุมชน

ภายใต้โครงการ Care the Whale ของตลาดหลักทรัพย์ ที่กล่าวข้างต้น จึงทำให้เกิดความร่วมมือกับหลายฝ่ายธุรกิจ ให้เกิดมีแคมเปญ Care the Whale : ขยะล่องหน ร่วมกับวัดจากแดง และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เชิญชวนประชาชนในชุมชนคุ้งบางกะเจ้า จ. สมุทรปราการ ทั้งหมด ๖ ตำบล ซึ่งเดิมมีปริมาณขยะกว่า ๔ ตัน ต่อเดือน สร้างโมเดลสถานีขยะล่องหน ผ่านแคมเปญ “เก็บ แยก แลก จ้า” เชิญชวนประชาชนนำขยะ ได้แก่ พลาสติกขวดใส ขวดขุ่น ถุงแกง และเสื้อผ้าไม่ใส่แล้ว นำมาแลกรับเป็นของใช้อุปโภค บริโภค (ซึ่งทางบริษัทจัดมาร่วมโครงการนี้ เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ฯลฯ) ได้เกิดสถานีขยะล่องหน คุ้งบางกะเจ้า เก็บ แยก แลก ของ (ใช้) ที่บริษัทสหพัฒนพิบูล จัดมาถวายไว้ที่วัดจากแดง และนำขยะนั้นไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ คืนสู่ชุมชน พร้อมทั้งช่วยเหลือชุมชน ในช่วงโควิด-19

Care the Whale ตลาดหลักทรัพย์ ขยะล่องหน วัดจากแด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด
ภาพ: นำขยะมาสะสมแต้มเพื่อแลกของใช้อุปโภคบริโภค โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนด้วยแนวคิด “กำจัดคำว่าขยะให้หายไป ร่วมหาทางใช้ให้ถึงที่สุด”

ขยะที่ดูไม่เห็นคุณค่า มองดูเหมือนจะเป็นสิ่งของไร้ประโยชน์ เพราะไม่งดงาม มีกลิ่นเหม็น แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง ขยะเหล่านี้กลับมีมูลค่าสูง เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า ดังนั้น การเก็บขยะจึงสามารถทำให้มีวิมานเกิดรออยู่ในสวรรค์ได้ เช่นกัน ดังได้มีบันทึกกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก คือ ในพระวินัยปิฎก หากพระภิกษุไม่เก็บขยะ ไม่ปัดกวาดกุฏิ วิหาร ไม่ทำความสะอาด มีการปรับอาบัติทุกกฏ เป็นโทษตามพระวินัยของสงฆ์ หากเก็บกวาดทำความสะอาดเรียบร้อยก็ไม่ต้องอาบัติ ถือว่ามีข้อวัตรสมบูรณ์ทางวินัย

ส่วนในพระสุตตันตปิฎก หากไม่เก็บกวาด ทำความสะอาด ทิ้งขยะไม่เรียบร้อย ผลของการทิ้งไม่เป็นระเบียบ จะทำให้ป่วยเป็นโรคผิวหนัง การเก็บขยะมีอานิสงส์ถึง ๕ ข้อ คือ

๑. บุคคลเห็นเข้าก็เลื่อมใส ๒. เทวดาเห็นเข้าก็เลื่อมใส
๓. จิตของผู้กวาดเป็นสมาธิได้เร็ว ๔. ผิวพรรณผ่องใส
๕. เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ได้บังเกิดในสวรรค์

ในการปฏิบัติธรรม ขั้นต้นต้องเก็บกวาดกุฏิที่พักให้เรียบร้อย ก่อนเข้าปฏิบัติธรรม ถ้าไม่เก็บกวาดทำความสะอาดสถานที่ ให้เรียบร้อย ถือว่ามี ปลิโพธ คือความกังวลเล็ก ๆ น้อย ๆ อันจะขัดขวางการปฎิบัติธรรม ไม่ให้วิปัสสนาญาณเกิดขึ้นได้ โดยง่าย


โพสอื่น  ๆ ที่คล้ายกัน:

 

โครงการ “Care the Whale” สู่ชุมชน ริเริ่ม สถานีขยะล่องหน @ ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า